Sunday, March 17, 2013

แม่บ้านกับของสะสม : BEANIE BABIES ตุ๊กตายัดเมล็ดถั่วแสนน่ารัก

          วันนี้เป็นวันอาทิตย์ทีอากาศค่อนข้างอุ่นจนคิดว่ากำลังจะเข้าฤดูร้อนของที่รัฐจอเจียร์นี่ แม่บ้านแพทก็เกิดอาการครึ้มอกครึ้มใจ จัดแจงจัดเรียงสิ่งที่ตัวเองสะสม (ถึงแม้ปริมาณจะไม่มากมายอะไร) เอาออกมาให้ทุกท่านได้ยลโฉมกันค่ะ สิ่งนั้นก็คือ Beanie Babies ตุ๊กตายัดเมล็ดถั่วแสนน่ารักน่าชังของแม่บ้านแพทนั่นเอง น่ารักแค่ไหนดูกันเอาเองน่ะค่ะ

อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเยอะๆน่ะลูก จะได้ไม่เหงา
กลุ่มผู้สูงอายุ พวกที่เกิดปี ค.ศ.1993

กลุ่มน้องหมี
2 ตัวโปรด Valentina(ชมพู) และ Valentino(ขาว)
          เอาล่ะค่ะได้ยลโฉมตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ที่แม่บ้านมีไปแล้ว ก็เลยถือโอกาสมาคุยเรื่องราวเกี่ยวกับตุ๊กตาชนิดนี้กันดีกว่าค่ะ บีนนี่ เบบี้ ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ.1993 ซึ่งในครั้งแรกที่เปิดตัวนั้นจะมีตุ๊กตาอยู่ 9 แบบ ซึ่งมีชื่อดังนี้

1. Brownie : ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล



2. Chocolate : ตุ๊กตากวางมูส



3. Flash : ตุ๊กตาปลาโลมา


 4. Legs : ตุ๊กตากบ



5. Patti : ตุ๊กตาตุ่นปากเป็ด



6. Pinchers : ตุ๊กตากุ้งกล้ามโต

7. Splash : ตุ๊กตาปลาวาฬเพชรฆาตร


8. Spot : ตุ๊กตาน้องหมา




9. Squealer : ตุ๊กตาหมูสีชมพู



          ตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ แต่ละตัวจะถูกตั้งชื่อ, มีวันเดือนปีเกิด และบทกลอนสั้นๆที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแนบมาบนฉลาก โดยตุ๊กตาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Teddy Bear ซึ่งใช้สื้อความหมายถึงการระลึกถึงนั่นเอง

          ในปี ค.ศ.1996-1999 เป็นปีที่เฟื่องฟูของ บีนนี่ เบบี้ ผู้คนพากันคลั่งไคล้ให้ความสนใจตุ๊กตาชนิดนี้เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับกวาดซื้อกันครั้งละจำนวนมากๆเพื่อเก็บสะสม เพื่อคาดหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น มูลค่าของเจ้าตุ๊กตาเหล่านั้นจะสูงขึ้นหลายเท่าตัว ทางบริษัท Ty ผู้ผลิตและจำหน่ายตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ จึงตอบสนองจุดประสงค์ดังกล่าวด้วยการ หยุดผลิตตุ๊กตาบางแบบ เพื่อให้มันขาดตลาด ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มความต้องการของผู้ต้องการจะสะสม และแน่นอนเพิ่มมูลค่าของตุ๊กตาแบบนั้นๆให้สูงขึ้นลิบอีกด้วย(นี่ละค่ะ หลักการกลไกตลาดสมัยเราเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์^^)

          ทาง Ty ได้ผลิตตุ๊กตาหมีออกมาหลายร้อยแบบเพื่อจำหน่าย จนถึงปี ค.ศ.1999 ก็ได้ยกเลิกการผลิต เมื่อความบ้าคลั่งในตัวตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้สร่างซาลง  แต่ด้วยความต้องการของกลุ่มลูกค้านักสะสมที่ยังมีจำนวนมาก บริษัทจึงตัดสินใจเริ่มผลิตตุ๊กตาอีกครั้งในปี ค.ศ.2000 มันมีตุ๊กตาที่ชื่อ Millennium น้องหมีสีชมพูบานเย็น ซึ่งแน่นอนแม่บ้านแพทมี 1 ตัวในครอบครอง  เป็นตุ๊กตาที่มีปัญหาเรื่องการถูกสะกดชื่อผิดบน Swing Tag และ Tush Tag คือ มีพิมพ์ผิดเป็น Millenium แต่ตัวที่แม่บ้านมีนั้น พิมพ์ถูกต้องบนทั้ง 2 Tag เลยค่ะ(เดี๋ยวแม่บ้านจะมาพูดเรื่อง Tag กันตอนถัดไปอีกทีค่ะ) จนถึงปีนี้ปี ค.ศ.2013 ตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ก็ยังมีจำหน่ายให้ซื้อหาสะสมกัน แต่มูลค่าของตัวตุ๊กตานั้นไม่สูงเหมือนในอดีต (เรื่องนี้แม่บ้านห้ามพูดต่อหน้าสามีค่ะ เพราะเขาคือหนึ่งในนั้นที่สะสมตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ในช่วงรุ่งโรจ์ ราคาแพงม๊ากมาก เขาเล่าว่าเขามีสะสมกว่า 500 ตัว ชนิดจ่ายเงินครั้งละหลายพันในเครดิตการ์ดเพื่อซื้อเจ้าตุ๊กตาชนิดนี้ และแน่นอนเขาจำชื่อมันได้เกือบทุกตัว แฟนพันธุ์แท้จริงๆ ข้าน้อยขอซูฮก) ส่วนใหญ่ผู้ที่ซื้อไปนั้นจะเป็นเพราะความชอบส่วนตัวมากกว่าสะสมเพื่อเก็งกำไร
          มาที่เรื่องของ Tag หรือฉลากของตุ๊กตา เจ้าบีนนี่ เบบี้ จะมีฉลากติดมากับตัวตุ๊กตาอยู่ 2 ชนิด คือ

  1. Swing Tag : เป็นฉลากแบบกระดาษ ติดอยู่ตรงหูของตุ๊กตาด้านขวามือของเราค่ะ โดยฉลากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจสีแดง มีสัญลักษณ์ ty สีขาวอยู่ตรงกลางหัวใจ ตัวฉลากดั้งเดิมจะมีแค่นั้น แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ จะมีรูปดาวสีเหลืองด้านบนอักษร y และมีข้อความว่า BEANIE ORIGINAL BABYบนรูปดาวนั้นค่ะ ส่วนฉลากด้านในจะเหมือนกัน คือ มีชื่อของตุ๊กตา, วันเดือนปีเกิด และบทกลอนประจำตัวของตุ๊กตาแบบนั้นๆค่ะ ฉลากแบบนี้มีความสำคัญต่อมูลค่าของตัวตุ๊กตา คือ หากฉลากชำรุดเสียหาย หรือหักงอ ยับยู่ยี่ ราคาของเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นในตลาดก็จะตกลงทันที ถึงขั้นบางครั้งราคาหายไปครึ่งหนึ่งของราคาปกติเลยค่ะ ทั้งที่แม้ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตุ๊กตาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นนักสะสมส่วนใหญ่จะซื้อตัวปลอกพลาสติกหุ้ม ซึ่งมีจำหน่ายในร้านค้าที่จำหน่ายตุ๊กตาชนิดนี้มาเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อตัวฉลากกันเลยทีเดียว
  2. Tush Tag : เป็นฉลากแบบผ้าที่เย็บติดมากับตรงส่วนก้นของตุ๊กตา ซึ่งในปัจจุบันฉลากชนิดนี้จะมี hologram อยู่บนฉลากด้วย เพื่อป้องกันการผลิตปลอมแปลง หรือเลียนแบบค่ะ โดยอีกเช่นกันบนฉลากจะมีชื่อของตุ๊กตาพิมพ์อยู่ทุกตัว รวมทั้งข้อแนะนำในการทำความสะอาด (แต่แม่บ้านคิดว่า คงไม่มีใครเอาตุ๊กตาบีนนี่ เบบี้ไปซักหรอกค่ะ ขนาด Tag ยังกลัวเสียรูปเลย ว่าไหมอ่ะ?) ฉลากแบบนี้ก็มีผลต่อราคาตุ๊กตาเช่นกันน่ะค่ะ ก็พยามยามอย่าทำให้มันชำรุดเสียหายก็แล้วกันค่ะ


อันนี้ คือ Tush Tag ค่ะ และนี่คือ ชื่อที่พิมพ์ผิดบน Tag ค่ะ ที่ถูกต้อง คือ Millennium ค่ะ

          เหนื่อยกันหรือยังค่ะ สำหรับบล๊อกนี้ ใกล้ถึงที่สุดแล้วค่ะ จากที่อ่านมาข้างต้น คงมีคนอยากทราบกันใช่ไหมค่ะว่า แล้วตุ๊กตาในครอบครัว บีนนี่ เบบี้ ตัวใดที่มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการสูงสุดกันน้า? เอาล่ะมาตามชมกันค่ะ แม่บ้านจะจัดเป็น 5 อันดับที่เป็นขวัญใจนักสะสมติดระดับโลก

อันดับ 1 : Peanut  เจ้าช้างสีฟ้าเข้ม ครองแชมป์ไปด้วยมูลค่าสูงสุด $4,500 ค่ะ

หน้าตาเขาเป็นแบบนี้ แต่ Tag จะเป็นแบบเก่า ไม่มีดาวน่ะค่ะ อันในรูปนี้น่าจะทำซ้ำของเก่าค่ะ

อันดับ 2 : Nana เจ้าลิงน้อยแสนซน มาเป็นรองแชมป์อยู่ที่มูลค่า $4,000 ค่ะ

ด้านขวาเป็น Tag แบบดั้งเดิมค่ะ ส่วนด้ายซ้ายผลิตขึ้นใหม่ค่ะ
อันดับ 3 : Pinchers เจ้าปูกล้ามโต(มีภาพด้านบนแล้วน่ะค่ะ ย้อนกลับไปดูนี้ดส์นึง) สนนราคาในตลาดนักสะสมอยู่ที $3,800 จ้า

อันดับ 4: Brownie เจ้าหมีสีน้ำตาล (อันนี้แม่บ้านก็ลงภาพไว้ด้านบนแล้วเช่นกันน่ะจ้ะ) ตามอันดับ 3 มาติดๆ อยู่ที่ $3,600

อันดับ 5: Brown Teddy Bear  เจ้าหมีเท็ดดี้สีน้ำตาล มาอันดับรั้งท้าย แต่ราคาไม่ท้าย ติดอันดับอยู่ที่ $2,800 เลยทีเดียว
          เอาล่ะค่ะ แม่บ้านทราบว่าทุกคนคงเหนื่อยกับการอ่านบล๊อกที่ร่ายยาวมาถึงจุดนี้ แม่บ้านก็ขอสรุปตอนท้ายไว้ที่ หากท่านใดคิดว่ารักและต้องการจะสะสมน้อง บีนนี่ เบบี้ ก็ขอให้สะสมด้วยใจน่ะค่ะ อย่าไปคิดเรื่องมูลค่า หรือการเก็งกำไร เพราะเจ้าตุ๊กตาพวกนี้มันมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าคุณค่าที่ตีเป็นราคา ดูแลรักษาเขาดีๆน่ะค่ะ เขาก็จะอยู่กับเราไปอีกนานจนชั่วลูกชั่วหลานเลยค่ะ แล้วถ้าใครสนใจก็อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ต่อไปนี้ได้เลยค่ะ

เว็บไซต์บริษัท Ty  :  http://world.ty.com
เว็บไซต์นักสะสม   :  www.tycollector.com
เว็บไซต์เกี่ยวกับตุ๊กตา : http://collectibles.about.com/od/beanies/tp/tybeaniebabies.htm
เว็บไซต์จำหน่าย wholesale : www.barrysbeanies.com

1 comment: